ไมโครกริด (Microgrids)
ในขณะที่ DER สามารถใช้งานเพื่อการผลิตพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในพื้นที่ที่ต้องการ แต่พวกเขายังขึ้นอยู่กับเครือข่ายพลังงานขนาดใหญ่เพื่อทำงานให้ได้ ในทางตรงกันข้าม ไมโครกริดเป็นเครือข่ายไฟฟ้าที่มีอยู่เป็นอิสระและสามารถทำงานได้โดยอิสระจากเครือข่ายใหญ่
ไมโครกริดมักประกอบด้วยแหล่งผลิตพลังงานในพื้นที่ (เช่นแผงโซล่าเซลล์หรือเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรอง) การเก็บพลังงาน (เช่นแบตเตอรี่) และตัวควบคุมที่จัดการการไหลของไฟฟ้าระหว่างส่วนประกอบต่าง ๆ ของไมโครกริด
เนื่องจากไมโครกริดเป็นเครือข่ายไฟฟ้าที่เป็นอิสระ ดังนั้นพวกเขามีความทนทานมากกว่าเครือข่ายไฟฟ้าทั่วไป ในช่วงเวลาที่มีการขัดข้อง ไมโครกริดสามารถตัดการเชื่อมต่อจากเครือข่ายใหญ่และยังคงให้พลังงานแก่ลูกค้าในพื้นที่ นี่อาจเป็นสิ่งที่สำคัญมากในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อภัยพิบัติจากสภาพอากาศต่อเนื่อง เช่น พายุหรือพายุหิมะ
นอกจากความทนทานของพวกเขา ไมโครกริดยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเครือข่ายไฟฟ้าโดยรวม โดยการผลิตพลังงานในพื้นที่ใกล้เคียง ไมโครกริดสามารถลดจำนวนพลังงานที่ต้องส่งผ่านระยะทางไกล ซึ่งสามารถช่วยลดการสูญเสียการส่งข้อมูลและลดต้นทุนรวมของพลังงานได้
สรุป
ในสรุป DER และไมโครกริดเป็นเทคโนโลยีสองอย่างที่สำคัญที่สามารถช่วยเพิ่มความทนทานและความเชื่อถือได้ของเครือข่ายไฟฟ้า โดยการผลิตพลังงานในพื้นที่ใกล้เคียงและให้พลังงานสำรองในช่วงเวลาขัดข้อง DER และไมโครกริดสามารถช่วยให้ลูกค้ามีการเข้าถึงพลังงานไฟฟ้าที่มีความเชื่อถือได้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอากาศหรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
แม้ว่า DER และไมโครกริดจะเป็นเทคโนโลยีที่ใหม่ แต่พวกเขาได้แสดงความสามารถที่สำคัญในการปรับปรุงประสิทธิภาพและความเชื่อถือได้ของเครือข่ายไฟฟ้า ในขณะที่เทคโนโลยีเหล่านี้ยังคงเจริญเติบโตและกลายเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น เราสามารถคาดหวังได้ว่าจะมีประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่มากขึ้นในเชิงความมั่นคงของพลังงาน การประหยัดค่าใช้จ่าย และความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
April 23, 2023 in Uncategorized